เบคอน เป็นได้ทั้งนักบุญและซาตาน แต่แย่หน่อยที่ภาพลักษณ์ของมันโดนหมายหัวไว้ตั้งแต่ต้นว่า ‘อ้วน! มะเร็ง! กินแล้วตาย!’ ทั้งที่เบคอนก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น พวกมันออกจะน่ารักเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี ไม่มีแป้งเจือปน มีกลิ่นหอมหวนเฉพาะตัวที่ไร้เทียมทาน อย่างที่บอกอยู่เสมอว่าไม่มีอาหารชนิดไหนดีชั่วร้อยเปอร์เซ็นต์ (หากคุณยังจำกันได้ครั้งหนึ่งเหล่าผู้รักสุขภาพเคยแอนตี้ไข่ ไขมันจากสัตว์ หรือแม้แต่นมวัว -- แล้วตอนนี้เป็นไง?) เพราะการกินอะไรก็ไม่สำคัญเท่า ‘ปริมาณอาหาร’ ที่คุณกินเข้าไป
กินได้แต่ไม่เยอะ
อะไรแย่ก็บอกว่าแย่ ข่าวร้ายคือเบคอนเป็นอาหารแปรรูปที่ไม่เข้าข่ายอาหารที่คุณควรกินเป็นประจำ เพราะเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจและมะเร็ง แถมยังมีโซเดียมอีกเพียบ กินมากๆ ระวังความดันโลหิต เพราะเบคอน 1 แผ่นมีโซเดียม 190 มิลลิกรัม ในขณะที่ปริมาณโซเดียมที่แนะนำต่อวันอยู่ที่ 2,300 มิลลิกรัม เท่ากับว่ากินเข้าไป 4-5 ชิ้น โซเดียมก็ปาไปเกือบครึ่ง ทางที่ดีคุณควรจำกัดความถี่อยู่ที่ 1-2 มื้อต่อสัปดาห์ หรือมื้อไหนกินเบคอนเยอะก็ควรลดของทอดๆ มันๆ มื้ออื่น
อาหารเพิ่มพลัง
มหาวิทยาลัยมิสซูรี โคลัมเบีย ทำการวิจัยพบว่าการกินโปรตีนแต่เช้าช่วยให้คุณมีสุขภาพดี มื้อเช้าที่อยากแนะนำคือไข่ดาวกับเบคอน (1 แผ่นต่อโปรตีน 3 กรัม) คู่นี้ช่วยหลั่งสารโดพามีนทำให้เราตื่นตัว อารมณ์ดี และอยู่ท้อง โดยไม่ต้องแบกความหิวโหยไปลงกับมื้อเที่ยง แต่ข้อควรระวังคือไม่ควรทอดเบคอนด้วยน้ำมัน และสัดส่วนของจานควรมีไข่มากกว่าเบคอน แถมจะบอกให้ว่าเห็นไขมันเป็นชั้นๆ อย่างนี้แต่เบคอนกลับมีไขมันน้อยกว่าไส้กรอกอ้างอิงpussy888thai
แก้เมาค้าง
ลืมซูเปอร์ฟู้ดไปได้เลย เบคอนเยิ้มๆ นี่แหละคือสิ่งที่คุณควรมีติดตู้เย็น หลังมีการศึกษาพบว่ากรดอะมิโนจากโปรตีนของเบคอนช่วยให้คุณสร่างเมาได้เร็วขึ้น และจะเทพมากถ้ากินพร้อมขนมปัง เพราะคาร์โบไฮเดรตช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดและเร่งระบบเผาผลาญทำให้คุณมีเรี่ยวแรงโงหัวขึ้นจากที่นอน แต่เทพขั้นสุดคือโทร.สั่งชีสเบอร์เกอร์พิเศษใส่เบคอนมากินพร้อมกาแฟดำ
ช่วยเบิร์นไขมัน
ไม่ได้อำ แต่นักวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเกียวโตพบว่าเบคอนมีโคเอนไซม์ คิว Q1 ช่วยเร่งระบบเผาผลาญเมื่อทำงานร่วมกับการออกกำลังกายเบาๆ อย่างการเดินเร็ว และจากผลการศึกษาเดียวกันยังบอกอีกว่า การกินเบคอน 6 แผ่นก่อนไปทำงาน (กลับไปอ่านหัวข้อที่ 1 และ 2) ช่วยให้คุณเบิร์นระหว่างวันได้มากขึ้น
อุดมด้วยวิตามิน
คุณอาจไม่เชื่อว่าเบคอนเป็นแหล่งของวิตามินบี 1 บี 3 และบี 12 รวมถึงสังกะสี ช่วยบำรุงผิว เส้นผม และดวงตา จากผลการวิจัยของศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์ นอกจากนี้ยังเป็นอาหารที่กินแล้วฟีลกู๊ด
เบคอนแบ่งออกเป็น 4 ชนิด
1. เบรคฟัซท์เบคอน (Breakfast Bacon) เป็นเบคอนที่ผลิตจากเนื้อส่วนพื้นท้องที่เรียกว่า หมูสามชั้น ส่วนที่อยู่ตรงกลางของซากหลังจากตัดขาหน้าและขาหลังออกแล้ว เมื่อเลาะเอา กระดูกซี่โครงออกจะได้เนื้อที่มีชิ้นของเนื้อแดง สลับกับไขมันมีหนังติดอยู่ด้วย เบคอนที่ดี ควรมีเนื้อแดงมาก ไขมันบาง
2. แคนาเดียนเบคอน (Canadian Bacon) เป็นผลิตภัณฑ์จากเนื้อหมูสัน (Loin) ดังนั้นจึงมีไขมันระหว่างเซลล์กล้ามเนื้ออยู่น้อย ในขณะที่ไขมันที่อยู่ด้านนอกจะถูกเลาะทิ้งไปแล้ว ทำให้ผลิตภัณฑ์เนื้อหมูแดงเป็นส่วนใหญ่ เนื้อหมูสันจะถูกฉีดน้ำเกลือและแช่น้ำเกลือไว้ประมาณ 2-5 วัน จากนั้นจึงนำมาล้างด้วยน้ำเย็นสะอาด แล้วบรรจุไส้เซลลูโลสหรือผูกตาข่าย หรือผูก ด้วยเชือกเป็นปล้องๆ แล้วแขวนในตู้อบรมควัน รมควันจนสุกที่อุณหภูมิภายในระหว่าง 150-155 ํF
3. จอวล์เบคอน (Jowl Bacon) เป็นเบคอนที่ทำจากเนื้อส่วนคาง (Jowl) ซึ่งนำมาตัดแต่งแล้ว นำมาหมักและรมควันเหมือนกับเนื้อพื้นท้อง มีรสชาติดีแต่มีไขมันมาก
4. บีฟเบคอน (Beef Bacon) ทำจากเนื้อวัวส่วนอกค่อนมาทางท้อง (Shortplates) หมักและรมควันคล้ายกับเบคอน
สนับสนุนความอ้วนโดยpussy888thai
pussy888thaiเว๊ปไซชื่อดังของไทย
หน้าที่เข้าชม | 5,035,897 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,810,955 ครั้ง |
เปิดร้าน | 14 มี.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |